เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในกรุงเทพฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา นอกจากส่งผลกระทบต่อความตื่นตระหนก ความเครียดในจิตใจของผู้คนจำนวนมากแล้ว หลายคนยังมีอาการ “โรคกล้ามเนื้ออักเสบเฉียบพลัน” เนื่องจากเดินลงบันไดหนีไฟ หรือวิ่งออกจากสถานที่หรือตึกต่างๆ ตามมาอีกด้วย
น.พ. เกรียงศักดิ์ เล็กเครือสุวรรณ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านคลินิกระงับปวด และผ่าตัด ข้อสะโพก ข้อเข่า ข้อไหล่ โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล เผยว่าอาการดังกล่าว เป็นปัญหาที่เกิดจากการใช้กล้ามขาอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ส่งผลให้กล้ามเนื้อมีการบาดเจ็บเล็กๆ หลายๆ จุดในมัดกล้ามเนื้อเดียวกันหรือต่างมัดกล้ามเนื้อกัน
แม้โรคนี้จะไม่ใช่อาการร้ายแรง แต่หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนหรืออาการเรื้อรังได้ หรือในบางคนที่มีอาการรุนแรง อาจทำให้เกิดกล้ามเนื้ออักเสบรุนแรงหรือกล้ามเนื้อตายได้
โดยวิธีดูแลรักษากล้ามเนื้ออักเสบเบื้องต้นสามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน ดังนี้
1. พักการใช้งานกล้ามเนื้อ
หลีกเลี่ยงการวิ่งหรือเดินเป็นระยะทางไกลๆ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก หรือการเคลื่อนไหวที่กระทบกระเทือนบริเวณที่อักเสบ หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่มีลักษณะวิ่งออกตัวอย่างรวดเร็วหรือต้องเบรกอย่างรวดเร็ว เช่น แบดมินตัน, เทนนิส, บาสเกตบอล, วิ่ง, ปั่นจักรยาน เป็นต้น
2. ประคบเย็นในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก
การใช้ถุงน้ำแข็งหรือเจลเย็นประคบในบริเวณที่อักเสบเป็นเวลา 15-20 นาทีทุก 2-3 ชั่วโมง จะช่วยลดอาการปวดและบวมได้ อย่าประคบเย็นนานเกินไปหรือวางน้ำแข็งลงบนผิวโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิดภาวะเย็นกัดผิวหนัง

...
3. ประคบร้อนหลังจาก 48 ชั่วโมง
เมื่ออาการบวมลดลง สามารถใช้การประคบร้อน เช่น ถุงประคบร้อนหรือแผ่นร้อน เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดอาการตึงของกล้ามเนื้อ และช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวเร็วขึ้น
4. ยืดเหยียดและออกกำลังกายเบาๆ
หลังจากอาการปวดเริ่มบรรเทา ควรยืดกล้ามเนื้ออย่างอ่อนโยนเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้ตามปกติ การเคลื่อนไหวเบาๆ เช่น การเดิน หรือการทำโยคะเบาๆ สามารถช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อได้

5. ใช้ยาทา หรือยาบรรเทาปวด
สามารถใช้ยาทา เช่น ยานวดที่มีส่วนผสมของตัวยาแก้อักเสบ หรือบาล์มเพื่อช่วยลดอาการปวดและตึงกล้ามเนื้อ หากปวดมาก สามารถใช้ยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน แต่ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานโดยไม่ปรึกษาแพทย์

6. การนวดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
หลังจากอาการอักเสบลดลง การนวดเบา ๆ อาจช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ และช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการนวดแรงเกินไป โดยเฉพาะในช่วงที่อาการยังรุนแรง ให้หลีกเลี่ยงการนวดโดยผู้ไม่ชำนาญการเพราะอาจจะทำให้กล้ามเนื้อมีการบาดเจ็บรุนแรงมากขึ้น
สัญญาณที่ควรพบแพทย์
แม้ว่ากล้ามเนื้ออักเสบส่วนใหญ่จะสามารถรักษาเองได้ แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์
- อาการปวดรุนแรงขึ้นแม้จะได้พักและรักษาเบื้องต้น
- มีอาการบวมมากผิดปกติหรือมีรอยช้ำที่เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ
- มีอาการชาหรืออ่อนแรงร่วมด้วย
- ไม่สามารถขยับส่วนของร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บได้ตามปกติ
- กล้ามเนื้ออักเสบเป็นเวลานานเกิน 1-2 สัปดาห์โดยไม่ดีขึ้น

กล้ามเนื้ออักเสบเป็นภาวะที่สามารถดูแลรักษาได้ด้วยตัวเองโดยใช้หลักการ พัก ประคบเย็น-ร้อน ยืดเหยียด และใช้ยาเมื่อจำเป็น หากดูแลถูกต้อง อาการมักจะดีขึ้นภายในไม่กี่วันถึงสัปดาห์
...
อย่างไรก็ตาม หากอาการรุนแรงหรือเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์ หรือได้รับการรักษาจากนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม