วันเสาร์สบายๆวันนี้ คงต้องไปคุยเรื่องที่คนไทยทั้งชาติรู้สึกไม่สบายใจ นั่นคือบทสนทนาทางโทรศัพท์ของ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เพื่อนพ่อ ซึ่งมีความยาว 17 นาที 6 วินาที ที่ ฮุน เซน ตั้งใจปล่อยออกมาใส่ฝั่งไทยเต็มแม็กซ์ ผมเชื่อว่าไม่มีใครฟังแล้วสบายใจแน่นอน แม้ นายกฯแพทองธาร จะออกมาแก้ตัวอธิบายว่า “เป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง” แต่เนื้อหาในบทสนทนาที่ถูกเผยแพร่ออกมาฟ้องชัดเจนว่า คำพูดแบบนี้ไม่ใช่เทคนิคการเจรจาต่อรองแน่นอน ถ้าใช้เทคนิคการเจรจาต่อรองแบบนี้ ประเทศไทยเสียดินแดนแน่นอน

ไปอ่านคลิปเสียงของ นายกฯแพทองธาร ที่มีการถอดคลิปกันอีกครั้งนะครับ

“ไม่อยากให้ uncle (ลุง) ไปฟังคนที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับเรา เพราะว่า พอไปฟังฝั่งตรงข้ามอย่างแม่ทัพภาค 2 เป็นคนของฝั่งตรงข้ามหมดเลย ซึ่งพอฟังเป็นฝั่งนั้น ก็ไม่อยากให้ท่านรู้สึกไม่ชอบใจหรือโกรธ เพราะจริงๆ แล้ว ไม่ใช่ความตั้งใจของเราเลยค่ะ...เพราะตอนนี้ ทางนั้นเขาอยากดูเท่ เขาก็จะพูดอะไรออกมาที่มันไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติค่ะ แต่ว่าจริงๆที่เราต้องการ คือต้องการความสงบสุขให้เกิดขึ้น เหมือนตอนก่อนที่จะปะทะกันตรงชายแดนค่ะ...ให้ท่านฮุน เซน เห็นใจหลานหน่อย เพราะว่าตอนนี้คนในประเทศไทยเขาไล่เราไปเป็นนายกฯที่เขมรหมดแล้ว” และพูดอีกว่า “จริงๆ แล้ว ถ้าท่านอยากได้อะไร ก็ให้ท่านบอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะจัดการให้”

เป็นไงครับ เทคนิคการเจรจาต่อรองชายแดนไทย–กัมพูชา ของ นายกฯแพทองธาร

สายวันที่ 19 มิ.ย. หลังจากที่ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจ นำทีมรัฐมนตรีของพรรคยื่นใบลาออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว นายกฯแพทองธาร ได้เรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศ หารือถึงปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชาที่เกิดขึ้น หลังประชุม นายกฯแพทองธาร ได้แถลงข่าวกล่าว “ขออภัย” อย่างเป็นทางการถึงคลิปเสียง แต่ไม่พูดว่า “ขอโทษ” ซึ่งเป็นคำที่หนักแน่นจริงใจมากกว่า และยังกล่าวอีกว่า เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสู้กันเอง มั่นใจว่ารัฐบาลและกองทัพรวมกันเป็นหนึ่งเดียวและสามัคคีกัน

...

ฟังการแถลงข่าวแล้ว นายกฯแพทองธาร ไม่ได้คิดที่จะลาออกหรือยุบสภา

แต่เท่าที่ผมฟังเสียงรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น พรรคร่วมรัฐบาล (บางพรรค) ฝ่ายค้าน นักวิชาการ นักวิเคราะห์การเมือง ต่างมีความเห็นไปในทางเดียวกันว่า นายกฯแพทองธาร ต้อง “ลาออก” หรือ “ยุบสภา” ไม่ควร “อยู่ต่อ” เพราะ “ความเชื่อมั่น (trust)” ได้หมดสิ้นไปแล้ว อยู่ต่อก็มีแต่จะแย่ลงกว่าเดิม ทำให้ประเทศไทยวิกฤติหนักขึ้นกว่าเดิม การเป็นนายกฯมาเกือบปีได้พิสูจน์แล้ว คุณแพทองธาร ไม่สามารถบริหารประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้ มีแต่ทรุดลงในทุกด้าน จนเขมรยังลุกขึ้นมารุกรานไทยจะยึดครองแผ่นดินไทย

แม้ นายกฯแพทองธาร จะขออภัย อ้างไม่รู้ถูกอัดคลิป แต่เนื้อหาในคลิปก็ฟ้องถึงแนวคิดและวิธีการคิดของนายกฯอย่างชัดเจน จนยากที่จะให้คนเชื่อถือได้อีกต่อไป

ใน 3 ทางเลือก ของ นายกฯแพทองธาร ที่มีการพูดถึงในเวลานี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการ “รัฐประหาร” ซึ่งเป็นทางเลือกที่เลวร้ายที่สุด ผมเห็นว่า “การลาออก” เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ทำให้สามารถ ตั้งรัฐบาลใหม่ ขึ้นมาบริหารประเทศต่อได้ทันที ถ้า “ยุบสภา” ต้องใช้เวลาเลือกตั้งและฟอร์มรัฐบาลกันหลายเดือนกว่าจะได้ นายกฯ และรัฐบาลใหม่ (รัฐบาลเพื่อไทย ใช้เวลา 109 วัน) ระหว่างที่รอเลือกตั้งและรัฐบาลใหม่ นายกฯแพทองธาร และ พรรคเพื่อไทย ก็ยังคงเป็น รัฐบาล รักษาการ ต่อไปจนกว่าจะได้รัฐบาลใหม่ ปัญหาของประเทศก็จะเหมือนเดิม แต่ รัฐบาลใหม่ชุดนี้ ต้องมีเงื่อนไขชัดเจนว่า เป็นรัฐบาลชั่วคราวเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว เช่น เลือกตั้งต้นปีหน้า เป็นต้น

การ “ลาออก” ของ นายกฯแพทองธาร จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของประเทศ

สถานการณ์วันนี้ ประเทศไทยไม่มีเวลาที่จะรออีกต่อไปแล้ว เจอทั้ง วิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติภาษีทรัมป์ ปัญหาชายแดน ดีที่สุด พรรค ร่วมรัฐบาล เช่น รวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง ร่วมใจลาออกทันที เพื่อบีบให้ “นายกฯอิ๊ง” ต้องลาออก ไม่งั้นเราก็จะจมไปด้วยกัน.

"ลม เปลี่ยนทิศ"

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม