สังคมเลิกให้ความคาดหวังต่อ กกต. แต่ไปคาดหวังต่อบทบาทของดีเอสไอ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขยับมุมคิดให้เห็นถึงภาพการสืบสวนและไต่สวนคดีฮั้วเลือก สว.ปี 67 ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการอยู่และอยู่ในมือของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในคดีฟอกเงิน-คดีอั้งยี่
การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนไม่กี่ชั่วโมง ที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน มีเจ้าหน้าที่ กกต.และดีเอสไอ รวม 7 คน ออกหมายเรียก 53 สว. ลอตแรกมีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำความผิดตามกฎหมายการได้มาซึ่ง สว. ไม่ได้ถูกเลือกเป็น สว.โดยสุจริตเที่ยงธรรม หรือโดยการฮั้ว สว.
โดย นายสมชัย ย้อนให้เห็นบทบาทของ กกต. ที่ต้องจัดการเลือก สว.ให้เป็นไปโดย “สุจริต-เที่ยงธรรม” แต่ตอนรับสมัคร สว. กกต.ถูกตั้งข้อสังเกตว่าบิดพลิ้วเลือกที่จะไม่ออกระเบียบภายใน กกต.
เพื่อให้การดำเนินการคัดเลือกตามขั้นตอนอำเภอ-จังหวัด-ประเทศ ต้องแบ่งออกเป็น 20 กลุ่ม มีขั้นตอนกระบวนการต่างๆระบุชัดในกฎหมายเลือก สว.
กฎหมายเขียนอย่างไรก็ทำตามนั้นแบบขอไปที พอเปิดรับสมัคร การเขียนใบสมัครทำกันง่ายๆ เอกสารหน้าเดียว หลักฐานประวัติ 3 บรรทัด ประสบการณ์ทำงาน 5 บรรทัด กลุ่มอาชีพแล้วแต่ที่อยากระบุ มีคนรับรองแค่คนเดียว
กลายเป็นช่องว่างให้เกิด “ขบวนการระดมคนมาสมัคร” จ้างคนสมัครในบางกลุ่มอาชีพ หรือหลายกลุ่มอาชีพ กกต.ไม่ตรวจสอบ ไม่มีสายสืบ มี “ผู้ตรวจการเลือกตั้ง” ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ดังกล่าวเต็มที่ แม้มีคนทักท้วง เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ กกต.ไม่คิดทำอะไร ปล่อยผ่านจนถึงการเลือกระดับประเทศ
กกต.บกพร่องตั้งแต่ออกแบบรับสมัคร สว.
ผลการเลือก สว.ถึงออกมาแบบนี้ มีการร้องถึงการเลือกเป็นไปโดยไม่สุจริตเที่ยงธรรม กระบวนการพิจารณาล่าช้าเกินกว่าที่ควรเป็น
...
เช่น กรณี พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย ปมคุณสมบัติเป็นกรณีง่ายที่สุด แค่ 2 สัปดาห์หรือไม่เกิน 1 เดือนต้องจบ แต่ใช้เวลาประมาณ 10 เดือน ขอเขียนคำวินิจฉัยอีก 60 วันก่อนส่งศาลฎีกา บ้าไปแล้ว อย่างช้าสุด 7 วัน เกินจากนี้ไปไร้ประสิทธิภาพ พอใช้เวลา 60 วัน กกต.ไม่สมควรทำหน้าที่ต่อไป คดีเล็กๆเพียงคดีเดียวใช้เวลา 12 เดือน
ส่วนกรณีฮั้วเลือก สว.เกี่ยวข้องกับคนหมู่มาก เป็นเรื่องยาก ต้องใช้เวลาพิจารณาอย่างรอบคอบ ครบถ้วน เพียงแต่ดีเอสไอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน กกต.ถึงตามทำให้
ดีเอสไอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน กกต.เป็นฝ่ายตาม
สององค์กรทำหน้าที่คล้ายถ่วงดุลกัน ต่างฝ่ายต่างทำตามกฎหมาย แต่สังคมตั้งข้อสังเกตว่ามีการเล่นเกมกันอยู่ เป็นเรื่องการเมือง นายสมชัย บอกว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน มีรองเลขาธิการ กกต.เป็นประธาน มีเจ้าหน้าที่ กกต.และดีเอสไอ
ถ้าทำหน้าที่ตรงไปตรงมาทั้ง 2 ฝ่าย สามารถช่วย กกต.ทำงานได้รวดเร็วมากขึ้น เพราะ กกต.ไม่มีความสามารถสืบสวนข้อเท็จจริงในพื้นที่ หรือเชี่ยวชาญการใช้เทคโนโลยีต่างๆช่วยวิเคราะห์คะแนน
ขณะนี้เข้าใจว่ายังอยู่ในขั้นตอนของคณะทำงานร่วมกันฯ เมื่อไต่สวนพบโครงข่ายของคนจำนวนมาก ต้องรอผลการไต่สวนก่อนส่งขึ้นไปยัง กกต.ชุดใหญ่ คงใช้เวลาพอสมควร
สังคมเชื่อมีฮั้วเลือก สว. แต่ข้อมูลที่ กกต.และดีเอสไอเปิดออกมา ไล่เรียงดูพยานหลักฐาน พฤติการณ์ ในฐานะยืนอยู่วงนอก มองว่า กกต.สามารถชี้ให้เห็นมีขบวนการฮั้วและเอาผิดกับผู้กระทำผิดได้ นายสมชัย บอกว่า กระบวนการต่างๆที่ออกมาขณะนี้เข้าใจว่าน่าจะเข้าข่ายกระทำผิดตามกฎหมายเลือก สว. ขึ้นอยู่กับว่าใครเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง
ถ้ามีหลักฐานเกี่ยวกับฮั้วย่อมผิดกฎหมาย ผิดกฎหมายเลือก สว. ความผิดดังกล่าว เช่น ให้เงินเพื่อจ้างมาสมัคร ถือว่าให้เงินเพื่อโหวตให้ จัดโรงแรมที่พัก แม้แต่เลี้ยงอาหารมื้อเดียวก็ผิด
“คนที่เกี่ยวข้องซึ่งไม่ได้รับเลือกเป็น สว. มีความผิดอาญา เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง กรณีเป็นสว. กกต.ส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาให้วินิจฉัย มีความเห็นสอดคล้องก็เป็นใบแดงแก่ สว.คนนั้นหรือจำนวนนั้น
ก่อนเลื่อน สว.สำรองระดับถัดไปขึ้นมา ขณะนี้มีหลายคนตั้งคำถามสมมติสถานการณ์เลวร้ายที่สุด มี 140 สว.เกี่ยวข้อง ไม่ทำให้กระบวนการเลือก สว.เป็นโมฆะ ล้มไปทั้งหมด
เพราะ สว.สำรอง 20 กลุ่มอาชีพมี 100 คน ก็เลื่อนขึ้นมา แต่จำนวนเลื่อนขึ้นมามีไม่เพียงพอ เท่ากับ สว.หายไป 40 คน รัฐธรรมนูญก็ระบุให้วุฒิสภาประกอบด้วย สว.เท่าที่มีคือ 160 คน
จะเลือกใหม่ทั้งหมดกรณีสว.เหลือไม่ถึงครึ่งหนึ่งและมีอายุการทำงานเหลือเกินกว่า 1 ปี เช่น เหลือ สว. 98 คนและยังเหลือ 2 ปีต้องทำงานต่อ อันนี้ต้องเลือกใหม่ทั้งหมด”
สว.ที่ถูกตรวจสอบเข้าใจอายุความคดีฮั้ว สว.ภายใน 1 ปีในมือ กกต. คือ ลุ้นให้ถึงวันที่ 10 มิ.ย. 68 ครบหนึ่งปีเลือก สว. และยังมี กกต.หลายคนหมดวาระ มีผลต่อคดีฮั้วเลือก สว.อย่างไร นายสมชัย บอกว่า กฎหมายใหม่ไม่มีอายุความ เกิน 1 ปีทำได้ 1 ปีเป็นแค่ปฏิทินภายในในการเร่งรัด กกต.ทำงาน ดังนั้นครบ 1 ปีปล่อยผีหมด ไม่ใช่
หลักการนี้ยิ่งทำให้ กกต.ทำงานยิ่งช้าเข้าไปใหญ่
ส่วน กกต.ที่หมดวาระยังคงทำหน้าที่ต่อไปจนมีชุดใหม่เข้ามา ไม่มีปัญหา ยกเว้น กกต.ที่หมดวาระเนื่องจากอายุ 70 ปี ต้องพ้นตำแหน่งโดยทันที และให้นับจำนวน กกต.ที่เหลืออยู่
กระบวนการสรรหา กกต. ต้องผ่านการเห็นชอบจาก สว.ชุดนี้ เข้าทางที่มาช่วย สว.ชุดนี้ อาจกลับมาเอื้อได้ ตรงนี้ถือเป็นจุดอ่อน สังคมต้องจับตาดูว่าจะเกิดปรากฏการณ์แบบนี้หรือไม่
ถ้า กกต.คนใหม่เป็นคนของ สว. ไปลงมติเอื้อประโยชน์ให้สว. มีสิทธิถูกฟ้องอาญา มาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เช่น สมมติสำนวนออกมาให้ใบแดง พอถึง กกต.ยก ให้ใบขาว
โดนคดีอาญา 157 กับ กกต.ได้ หรือร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ฐานจงใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่ซื่อสัตย์สุจริต หรือ สส.และ สว.เข้าชื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ถอดถอน กกต.ออกจากตำแหน่งได้ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต
กกต.และดีเอสไอตรวจสอบคดีฮั้วเลือก สว. แต่เหมือนมีอำนาจทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องทั้ง 2 องค์กร มองปรากฏการณ์นี้อย่างไร นายสมชัย บอกว่า ดีเอสไอเอาจริงเอาจังจนผิดปกติ อาจเป็นธรรมชาติของดีเอสไอ
เนื่องจากอยู่ภายใต้กำกับดูแลของกระทรวงยุติธรรม ที่คล้ายเป็นคู่กรณี เพราะ สว.ร้องดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เลยเร่งรัดให้ดีเอสไอรีบทำงานให้เร็ว แต่ย้อนกลับไปสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ต้องขังไปอยู่โรงพยาบาล ถูกตั้งข้อสังเกตว่า รมว.ยุติธรรมไม่กระตือรือร้นทำเรื่องนี้สักเท่าไหร่
ขณะนี้มีพลังทางการเมืองพยายามต่อรอง ดูสถานการณ์มีโอกาสสาวไปถึงตัวผู้บงการฮั้วเลือก สว.อย่างไร นายสมชัย บอกว่า ความร้ายแรงของเหตุการณ์อาจมองเป็นระดับๆ
“น้อยสุดอาจกระทบกับ สว.ไม่เกิน 30 คน ที่เป็นแกนหลักๆ ถ้าขยายวงกว้างอาจกลายเป็น 60 คน ตามที่ปรากฏรายชื่อ หรือไปถึง 140 คน
มันโยงไปเกี่ยวกับนักการเมืองภายนอกหรือไม่ โยงไปเกี่ยวกับกลุ่มการเมืองหรือพรรคการเมืองหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลักฐาน ถ้าโยงไปถึงก็ถึง
เท่าที่ทราบการแบ่งพื้นที่เป็นโซน เป็นจังหวัด พอไปทำแผนที่ออกมา มีโซนที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองหนึ่งค่อนข้างชัด เช่น อุทัยธานี อ่างทอง บุรีรัมย์ ที่อาจโยงกันได้ ถือว่าเป็นความผิด”
เกิดปรากฏการณ์ปะทะกันของ 2 พรรคการเมืองใหญ่ เจรจาไม่ได้ก็พังไปข้างหนึ่ง เจรจากันได้ก็วิน-วินทั้ง 2 พรรค นายสมชัย บอกว่า คดีฮั้ว สว.ไปไกลเกินกว่าเจรจากันได้ หยุดไม่ได้แล้ว เพราะตรวจสอบไต่สวนลงในขั้นลึก ลงรายละเอียด ไม่เชื่อจบได้โดยง่าย
เพียงแต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ สว.มีมากหรือน้อยเท่านั้นเอง ถึงอย่างไรตอนนี้ สว.ต้องเสียหาย แต่เสียหายเท่าไหร่ ไพร่พลบาดเจ็บ ล้มตายมากน้อยเพียงใด ยังคาดการณ์ไม่ได้...
...ลามถึงฝ่ายการเมืองหรือไม่ ตัดตอนอย่างไร
...เป็นระเบิดลูกเล็กๆหรือเป็นระเบิดปรมาณู.
ทีมการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม