ประเทศช้างสารลดอาการตกมัน โลกเย็นลงทันที
รายการใหญ่ ประเทศมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา และมหาอำนาจจีน มีนัดพบปะหารือที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 10–11 พ.ค.นี้ ทำอุณหภูมิลดวูบ ความตึงเครียดเศรษฐกิจโลกคลายตัว
เพราะถึงแม้จะไม่ใช่เบอร์ 1 มาเอง แต่ก็ระดับตัวแทนอย่างเป็นทางการ ทั้งนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐฯ ตัวแทนผู้นำโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่ฝ่ายจีน นายเหอ หลี่เฟิง รองนายกฯ และที่ปรึกษา สี จิ้นผิง ผู้นำจีน
ก็สะท้อนท่าทีมหาอำนาจเริ่มหาจุดร่วม สงวนจุดแตก เมื่อเริ่มเห็นสัญญาณส่อพังไปด้วยกัน
นั่นก็ว่าไปในเรื่องของช้างสาร แต่ประเทศหญ้าแพรกอย่างประเทศไทยก็คงได้อานิสงส์หายใจคล่องขึ้น เพียงแต่คิวเตรียมเจรจาสหรัฐฯก็ยังแผ่วไม่ได้
ขณะที่มรสุมวิกฤติเศรษฐกิจจ่อถาโถม อีกมุมหนึ่งรายการเขย่าขวัญจากภาคการเมือง ศึกชิงอำนาจยังไม่มีทีท่าลดราวาศอก เกมเดือดสีแดง-น้ำเงิน เพื่อไทย-ภูมิใจไทย ยังไม่ลดดีกรี
ทำเสถียรภาพรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ง่อนแง่น รัฐนาวาโคลงเคลง
สำรวจแนวรบ คิวไล่บี้ปมฮั้ว สว. กับฉากสงครามตัวแทน หากชมดูเหมือนหนังบู๊ระห่ำโหด แค่เอามันส์ก็มันหยดติ๋ง ตัวแทนฝ่ายสีแดง ดีเอสไอ กระทรวงยุติธรรม ไล่บดจนใกล้ไคลแม็กซ์
นัยว่าต้องเร่งเครื่องให้ทัน โปรแกรมสอย สว.สิ้นสุดเดือน มิ.ย.นี้
อีกทางก็จ่อทุบหัวซ้ำดาบสองผู้บงการ ปล่อยโพยชี้เป้าผู้มีอำนาจหลายกระทรวง ขาใหญ่การเมืองในปมฟอกเงิน อั้งยี่ซ่องโจร
แนวรบนี้นอกจาก สว.ดาหน้าออกมายันเกมบุกกันเป็นแผง แถมล่าสุด กกต.ไม่รับลูกเกมทุบของดีเอสไอ ยกเหตุผลข้ออ้างกระบวนการขั้นตอน คณะกรรมการไต่สวนฯของ กกต. ยังไม่ถึงเวลา เรียกตัว สว.มาเคลียร์ชี้แจง
ยื้อคิวลงชนักปักดาบปมฮั้ว สว.
ยังไม่มีสัญญาณหยุดยิง ณ แนวรบด้านนี้ แม้อยู่ในจังหวะที่ “อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่บ้านจันทร์ ที่ว่าเป็นต้นสัญญาณบี้ ระทึกเงื่อนกฎหมาย คิวศาลยกปมชั้น 14 ไต่สวนเอง
...
ขณะที่ฝ่ายที่มีเอี่ยวก็ลุ้นหวาดเสียวถ้วนหน้า ล่าสุดบอร์ดแพทยสภาตรวจสอบปมจริยธรรม ก่อนมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน หลังให้ข้อมูลรักษา “ทักษิณ” ไม่ตรงกับความจริง
เป็นสัญญาณอันตรายนำร่องแล้ว
ในภาวะติดหล่มนิติสงคราม “ทักษิณ” ปั่นป่วน ได้แค่ปล่อยให้เกมทุบดีเอสไอไหลไป
ขณะที่เกมบริหารอำนาจ ดีเดย์ “ปรับ ครม.” ยังต้องยื้อออกไป
ไม่ต้องพูดถึงคิวโชว์ฟอร์มมืออาชีพเศรษฐกิจ แนะรัฐบาล วันนี้เริ่มหลุดฟอร์ม มุกใหม่ไม่มี เรือธงไม่ขยับ ทั้งดิจิทัลวอลเล็ต ส่อแววทบทวน แค่อ้างว่าชะลอก็เท่ากับยกเลิกไปเลย
ขณะที่เรือธงกาสิโนชะงัก แลนด์บริดจ์ไม่เกิด ขุดขุมทรัพย์พลังงานโดนต้าน รถไฟความเร็วสูงยังปุเลงๆ
ในภาวะจำเป็น ปมมุมอับการเงินการคลัง ต้องเตรียมกระสุนไว้รับมือวิกฤติเศรษฐกิจโลก
ถึงได้เห็นคิวลับ ครม.ขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมัน อีก 1 บาท แม้อ้างว่าชาวบ้านไม่ได้รับผลกระทบ เพราะจะลดเงินกองทุนน้ำมันมาชดเชย แต่ที่แจ้งบอก ก็คงลากอุ้มแค่สิ้นปีงบฯ 2568
ยื้ออีก 4–5 เดือน ราคาน้ำมันจ่อพุ่งแน่
ในภาวะความจำเป็น รีดต๋งตุนกระสุนเข้าคลัง
ไม่เท่านั้น ยังสะท้อนได้จากที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง คึกคักรับสัญญาณ “ไปต่อ” บนเก้าอี้หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ โชว์แผนหาช่องเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม
แก้ปมหลบเลี่ยง “เสียแวต” กับธุรกิจที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี
ล็อกเป้าค้าขายรายเล็กหนีลำบาก จ่อถูกรีด “แวตประเภท 2”
ในสถานการณ์น่าห่วง แต่ละหน่วยงาน องค์กรเศรษฐกิจทั้งในประเทศและทั่วโลกมีมุมมองเชิงลบเศรษฐกิจไทย ล่าสุดทีมเอกชนกรอ.หั่นตัวเลขจีดีพี หากเจอภาษีทรัมป์ซ้ำเติม จีดีพีหด ถึงขั้นต่ำกว่าร้อยละ 1
เมื่อนโยบายอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจไปต่อยาก เรือธงขยับไม่ได้ ทำได้ก็แค่เร่งรีดต๋งเก็บภาษี
สถานการณ์จ่อเข้าภาวะ “เศรษฐกิจบักโกรก” เต็มที.
ทีมข่าวการเมือง