หนึ่งในผู้บริหารไฟแรงที่มีวิสัยทัศน์ ปพน มนัสภากร ที่ได้นำความชื่นชอบส่วนตัวมาสร้างธุรกิจรูปแบบใหม่ในประเทศไทย ด้วยความพยายามผลักดันในสิ่งที่ใครคิดว่ายากเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้

ปพน มนัสภากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้ก่อตั้งบริษัท แบรนด์เนม มันนี่ จำกัด (Brandname Money) ผู้นำด้านบริการสินเชื่อเช่าซื้อและขายฝากแบรนด์เนม กระเป๋า นาฬิกา จิวเวลรี ลักชัวรี และสินเชื่อเช่าซื้อแบรนด์เนม ได้เล่าถึงเส้นทางการทำงานของตนเองกว่าจะมาถึงวันนี้ว่า ครอบครัวที่บ้านทำธุรกิจ จำหน่ายอะไหล่ ชิ้นส่วน ประกอบ และเครื่องยนต์สำหรับรถใช้แล้ว พอตนเรียนจบปริญญา ตรี ด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยหอการค้า คุณพ่อได้ให้เงินทุนมาทำธุรกิจนี้แถวบางนาจนประสบความสำเร็จ พอมีเงินทุนและมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ ได้เดินตามฝันสร้างธุรกิจของตัวเองที่ชื่นชอบ

“ตอนทำงานพอเราเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง ผมก็เลยอยากที่จะซื้อนาฬิกาเป็นของขวัญให้ตัวเองนะครับ ซึ่งจริงคุณพ่อเคยให้นาฬิกาตอน ม.3 เป็นจุดเริ่มต้นให้ผมหลงใหลนาฬิกามาตลอด เลยลงทุนทำธุรกิจซื้อขายนาฬิกามาเกือบ 10 ปี และเกิดความสงสัยมาเรื่อยๆว่า ทําไมทุกอย่างในประเทศไทยหรือบนโลกเนี่ย มันผ่อนได้หมดแล้ว รถยนต์ก็ผ่อนได้ บ้านก็ผ่อนได้ เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ผ่อนได้ แล้วทําไมสินค้าแบรนด์เนมถึงผ่อนไม่ได้ เลยเกิดความคิดที่จะ สร้างธุรกิจบริการสินเชื่อเช่าซื้อแบรนด์ เนม เปิดโอกาสให้คนไทยเข้าถึงสินค้าแบรนด์หรูในฝันได้ง่ายขึ้น โดยเราเปิดบริษัท แบรนด์เนม มันนี่ จำกัด ที่ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อและขายฝากแบรนด์เนม กระเป๋า นาฬิกา จิวเวลรี ลักชัวรีแห่งเดียวในประเทศไทย และสินเชื่อเช่าซื้อแบรนด์เนมแห่งแรกของโลกครับ โดยได้เริ่มธุรกิจในเดือนมิถุนายน ปี 2567 เพื่อให้บริการสินเชื่อเพื่อซื้อสินค้าแบรนด์เนมใน 3 รูปแบบ ได้แก่ สินเชื่อแบบผ่อนไป ใช้ไป สินเชื่อแบบผ่อนจบ รับของ สินเชื่อเพื่อแบรนด์เนม ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์เนม โดยไม่ต้องมีภาระผูกพันทางการเงินมากนัก เพียงดาวน์เริ่มต้น 30% ของราคาสินค้า ผ่อนจบรับสินค้าไปเลยทันที นอกจากนี้ ยังมีบริการขายฝาก โดยให้บริการขายฝากนาฬิกา กระเป๋า และจิวเวลรีแบรนด์เนม โดยเรามีระบบเก็บรักษาสินค้าของลูกค้าไว้อย่างปลอดภัยในตู้นิรภัยมาตรฐานสากล ซึ่งลูกค้าจะได้รับเงินทันทีครับ”

...

ในการสร้างธุรกิจในฝันให้เป็นจริงได้นั้น ผู้บริหารเก่งคนนี้ บอกว่า ความพยายามทุกอย่าง ที่เราผ่านมา แล้วก็ความอดทนที่เราสะสมมาทําให้เรากล้าที่จะมาเริ่มธุรกิจนี้ ที่มันเป็นความฝัน ของเราว่า ต้องทําได้สิ ต้องเป็นไปได้สิ เพราะว่า เราเป็นผู้บริโภคและมองเห็นโอกาสทางการตลาดลักชัวรีที่มีมูลค่าสูงมาก ซึ่งธุรกิจมาได้ไม่ถึง 1 ปี ได้ปล่อยสินเชื่อไปแล้ว ประมาณ 100 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีนี้มูลค่าพอร์ตสินเชื่อจะจบปีที่ 300 ล้านบาท และหลังจากนั้นมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

“ในการทำงานเราไม่มีวันแมนโชว์ แต่ เราทำงานกันเป็นทีมมีผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ครับ ผมแค่มองเห็นโอกาส แล้วผมจะทําทุกอย่างที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ครับ”...นิยามความสำเร็จของผู้บริหารคนนี้!

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่