เมื่ออยู่ใกล้ชิดผู้สูงอายุ หลายคนอาจจะเคยได้กลิ่นอ่อนๆ ที่เรียกว่า “กลิ่นแก่” (Aging odor) ซึ่งจะส่งกลิ่นเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล ทำให้ไม่สามารถอธิบายลักษณะของกลิ่นได้อย่างชัดเจน บทความนี้ จะพาไปทำความรู้จัก กลิ่นแก่ คืออะไร เกิดจากอะไร พร้อมวิธีแก้ไขง่ายๆ เพิ่มความมั่นใจในตนเองให้มากขึ้น

รู้จัก "กลิ่นแก่" คืออะไร

กลิ่นแก่ หรือกลิ่นผู้สูงอายุ (Aging odor) คือ กลิ่นที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เมื่อมีอายุที่เพิ่มขึ้น หรืออยู่ในช่วงวัย 40+ สามารถเกิดได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งแต่ละคนจะมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ต่างกันออกไป

กลิ่นแก่เกิดจากอะไร

สาเหตุหลักของกลิ่นแก่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงร่างกายเมื่ออายุมากขึ้น โดยจะเกิดจากต่อมไขมันและต่อมเหงื่อทำงานลดลง ส่งผลให้กรดไขมันลิพิดเปอร์ออกไซด์มีปริมาณสูงขึ้น ทำให้มีการสะสมของสาร Nonenal มากยิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ กลิ่นคนแก่ยังสามารถเกิดได้ในผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี ซึ่งเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น

  • ฮอร์โมนและแบคทีเรียบนผิวหนัง
  • การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล
  • โรคประจำตัว หรือสุขภาพพื้นฐาน
  • เสื้อผ้าที่ไม่สะอาด หรือมีความชื้น
  • อาหารหรือยาที่กิน ส่งผลให้กลิ่นตัวเปลี่ยน
  • ความเครียดที่ส่งผลให้กระตุ้นฮอร์โมนมากขึ้น

...

วิธีแก้กลิ่นแก่ทำอย่างไรได้บ้าง

กลิ่นแก่เป็นกลไกที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ แต่ก็ทำให้หลายๆ คนสูญเสียความมั่นใจได้ แนะนำวิธีแก้ไขง่ายๆ ดังนี้

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้ต่อมเหงื่อขยาย และขับของเสียอย่างเหงื่อและสิ่งสกปรกออกไป
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ลดการสะสมของเสียในร่างกาย
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
  • หลีกเลี่ยงการกินอาหารประเภทเนื้อสัตว์และไขมัน 
  • เช็ดเหงื่อบ่อยๆ เพื่อลดการผสมของเหงื่อ ไขมัน และแบคทีเรีย 
  • อาบน้ำร้อน เนื่องจากจะช่วยขยายรูขุมขน ให้เหงื่อและสิ่งสกปรกไหลออกไป
  • หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีกลิ่นแรง
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
  • เลือกกินอาหารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระให้มากขึ้น
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายหรือเสื้อผ้าที่มีกลิ่นหอม

กลิ่นแก่เกิดขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายซึ่งเป็นกลไกของธรรมชาติ แม้จะไม่เป็นอันตราย แต่ก็ทำให้หลายคนสูญเสียความมั่นใจได้ ทางที่ดีแนะนำให้เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต กินอาหารที่มีประโยชน์ และดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการก็จะช่วยลดกลิ่นคนแก่ได้แล้ว