มีโอกาสเดินทางกลับไปที่อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เที่ยวนี้มีเวลาเดินเล่นรอบเมืองเก่า ยามเย็นลมลอยเอื่อยๆมาจากฝั่งแม่น้ำบางปะกง ผมเดินลัดเลาะไปตามริมแม่น้ำฝั่งหลังตลาดทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เจอชายชาวประมงพื้นบ้านท่าทางน่าสนใจ กำลังนั่งอยู่ในเรือไฟเบอร์สีน้ำเงินลำเล็กลอยลำอยู่ในแม่น้ำ ถามไถ่ตามประสาคนช่างคุย ทำให้ทราบว่าเขาชื่อ “ทิ้ง” อายุ 52 ปี

ที่ว่าน่าสนใจก็เพราะ “คุณทิ้ง” ใช้ไม้ไผ่ลำยาวเกือบ 4 เมตร เอาปลายลำไผ่ด้านหนึ่งปักไว้ที่ริมตลิ่งมีสภาพเป็นโคลนเลน ปลายไผ่อีกด้านพาดมาบนลำเรือ “คุณทิ้ง” ใช้ขาหนีบลำไผ่เอาไว้ ไผ่ลำนี้ทำหน้าที่เสมือนสมอเรือเพื่อไม่ให้เรือไหลไปตามกระแสน้ำเชี่ยวกราก บนเรือลำน้อยมีคันเบ็ดสำหรับตกกุ้งแม่น้ำ 3 คัน จากการสังเกตเห็นว่าเป็นคันเบ็ดประดิษฐ์ขึ้นเอง ใช้ตะปูตอกเป็นหลัก 2 ตำแหน่งบนคันเบ็ด เพื่อม้วนสายเบ็ดไม่ให้พันกัน

...

ด้วยประสบการณ์ที่ยึดอาชีพหากุ้งแม่น้ำมานาน 10 ปี เขารู้ดีว่าเหยื่อที่กุ้งแม่น้ำชอบกินที่สุดคือเครื่องในหมู โดยเฉพาะเซี่ยงจี๊หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หยิบมาเกี่ยวเข้ากับเบ็ดแล้วหย่อนลงไปในแม่น้ำรับรองติดกับ “คุณทิ้ง” เล่าว่ากว่าจะหากุ้งได้แต่ละตัวต้องใช้การสังเกตเส้นเอ็นที่กุ้งกินเหยื่อแล้ว เมื่อกุ้งเดินทวนกระแสน้ำขึ้นมาห้ามกระตุกคันเบ็ดทันที มิฉะนั้นจะพลาดการได้กุ้ง ต้องรอจังหวะจนกว่าปลายคันเบ็ดจะเริ่มถูกกดลงถึงจะยกคันเบ็ดขึ้น คราวนี้ได้กุ้งแม่น้ำสดๆ “คุณทิ้ง” จับกุ้งเก็บในกระชังผูกไว้กับท้ายเรือ สอบถามแล้วปกติหากุ้งแม่น้ำได้อย่างต่ำวันละ 1 กิโลกรัม จะนำไปขายให้ร้านอาหารกิโลกรัมละ 400 บาท ส่วนใครสนใจอยากซื้อกุ้งแม่น้ำสามารถขอซื้อจาก “คุณทิ้ง” โดยตรง รับประกันได้กุ้งแม่น้ำบางปะกงสดๆแน่นอน

การได้พูดคุยกับชาวบ้าน เห็นการพึ่งพิงกันระหว่างคนกับธรรมชาติเช่นนี้ ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมาก ได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านที่ให้ความเคารพกับอาชีพของตัวเอง คุณทิ้งจะปล่อยกุ้งที่มีไข่กลับคืนสู่แม่น้ำบางปะกง เพราะเขาต้องการอนุรักษ์กุ้งแม่น้ำไว้ และที่สำคัญเป็นการไม่ทำลายอาชีพของตัวเอง ส่วนที่หาเอาไว้นำไปขายเพื่อหาเงินมาประทังชีวิตก็ส่วนหนึ่ง ส่วนที่ต้องรักษาไว้ต้องทำควบคู่ไปพร้อมกัน

ในระหว่างที่เดินสำรวจไปรอบเมืองย่านตัวเมืองเก่าของฉะเชิงเทรา ตึกรามบ้านช่องในช่วงเย็นเริ่มปิดเงียบแล้ว “ตลาดบ่อบัว” ที่เคยคึกคัก ตอนนี้แปรสภาพเป็นอาคารพาณิชย์แล้ว ส่วน “ตลาดบ่อบัว” แห่งใหม่ย้ายเข้าไปอยู่ด้านในริมทางรถไฟ ร้านค้าน้อยใหญ่ต่างต้องหาที่ทำกินใหม่ “คุณชายตะลอนชิม” สัปดาห์นี้ “คุณชายแป๊ะ” ขอแนะนำร้าน “ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ กุ้งทอด” ของ “คุณทีป-ประทีป สุดเสน่หา” อายุ 55 ปี และ “คุณจ้อย-อรุณ สุดเสน่หา” อายุ 53 ปี สองสามีภรรยาขายก๋วยเตี๋ยวอยู่คู่ตลาดบ่อบัวมานาน 20 ปี ย้ายมาตั้งร้านใหม่อยู่ในซอยตรงข้าม สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ตู้โชว์รถเข็นก๋วยเตี๋ยวมองเห็น “กุ้งทอดเหลืองอร่าม” วางเรียงอยู่บนถาดน่ารับประทานที่สุด

“เอาเส้นใหญ่เย็นตาโฟชามหนึ่งครับ” ผมแอบยืนกลืนน้ำลายก่อนสั่ง จากนั้นจึงไปหาโต๊ะนั่ง สังเกตเห็นท่าทางการลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวของคุณจ้อยดูคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง ขณะที่คุณทีปทำหน้าที่เติมเครื่องและปรุงรส ทั้งเต้าหู้ทอด หมูสับ หมูแดง หนวดหมึกกรอบ เห็ดหูหนูขาว ลูกชิ้นปลา และที่ขาดไม่ได้คือกุ้งทอด ซิกเนเจอร์ของร้านที่ทำให้ลูกค้าติดใจ ตบท้ายด้วยกระเทียมเจียวหอมๆ

...

ถือเป็นเย็นตาโฟเครื่องเยอะเครื่องแน่นสุดคุ้มค่า เส้นใหญ่เหนียวนุ่ม กุ้งทอดมีความกรอบได้รสชาติเต็มปากเต็มคำ หมูสับก็หมักปรุงรสอย่างดี ทำให้เวลาซดกับน้ำเย็นตาโฟอร่อยนัวเข้ากันมาก เรียกว่าอร่อยลงตัวชนิดที่ไม่ต้องใส่เครื่องปรุงเพิ่มแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลิ่นหอมของกระเทียมเจียว มันช่วยชูรสชาติให้ก๋วยเตี๋ยวอร่อยยิ่งขึ้น

“ลูกค้ามาที่นี่ต้องลองต้มยำนะครับ” คุณทีปเชิญชวนให้ลองชิมเมนูเด็ดประจำร้าน

“จัดมาเลยครับพี่ทีป เอาเส้นเล็กต้มยำครับ” ผมส่งเสียงตอบรับแบบไม่ลังเล

เส้นเล็กต้มยำของร้านนี้เด็ดขาดจริง ด้วยรสชาติของมะนาวสดๆบีบให้ชามต่อชาม หมูบะช่อลวกมาเป็นแผ่นทำให้เพิ่มอรรถรสในการกินยิ่งขึ้น เคี้ยวแล้วได้เนื้อแบบเต็มปากเต็มคำ กลิ่นหอมของถั่วลิสงป่นกับน้ำมันกระเทียมเจียวยังคงช่วยชูรสชาติของก๋วยเตี๋ยวให้อร่อยจัดจ้าน ที่สำคัญ “กุ้งทอด” พระเอกของร้าน เคี้ยวกรุบกรอบเพิ่มสีสันได้จริง ยิ่งซดน้ำต้มยำตามคล่องคอเชียว

คุณทีปเล่าว่า “ก่อนหน้านี้ขายอยู่ที่ตลาดบ่อบัวตรงร้านขายดอกไม้ ค้าขายมานาน 20 ปี ต่อมาทางรถไฟขอที่คืน แม่ค้าพ่อค้าจำเป็นต้องย้ายหาทำเลตั้งร้านใหม่ พี่เลยย้ายมาอยู่ในซอยนี้ เขาเรียกซอยเซเว่นใหม่ โชคดีได้ลูกค้าเก่าๆตามมาอุดหนุนเหมือนเดิม มีทั้งลูกค้าในตลาด คนแปดริ้ว คนมาจากพนัสนิคม พนมสารคาม และมาจากกรุงเทพฯ ต่างแวะเวียนมาชิมกันเป็นประจำ”

 “สูตรเด็ดเคล็ดลับของร้านพี่ คือกุ้งทอด เป็นพระเอกของร้านที่ใครกินก็ติดใจ จุดเริ่มต้นมาจากเคยไปกินร้านก๋วยเตี๋ยวกุ้งทอดเจ้าอร่อย เลยลองสั่งกุ้งขาวแกะหัวและหนวดออกมาคลุกแป้งทอดกรอบดู ปรากฏว่าได้รับเสียงตอบรับดีเกินคาด กุ้งทอดของพี่ทำสดใหม่ทุกวัน เฉพาะทอดกุ้งเอามาขายก๋วยเตี๋ยวพี่ใช้กุ้งประมาณ 10 กิโลกรัมต่อวัน เรียกว่าทอดกุ้งอย่างเดียวก็แทบหมดวันแล้ว ชามหนึ่งใส่กุ้งทอด 3-4 ตัว นอกจากนี้ยังมีกุ้งทอดแพ็กขายกล่องละ 30 บาท ร้านอื่นอาจจะมีเกี๊ยวทอดและแคบหมู แต่ร้านนี้มีกุ้งทอดไว้เสิร์ฟเป็นเครื่องเคียง” พี่ทีปกล่าวปนเสียงหัวเราะ

ด้านคุณจ้อยเล่าเสริมว่า “เครื่องก๋วยเตี๋ยวเราทำใหม่ทุกวัน เสน่ห์ของก๋วยเตี๋ยวต้มยำต้องใช้มะนาวแท้บีบสดๆ ทำให้ต้มยำถึงรส ไม่ใช้มะนาวเทียมให้เสียรสชาติ เครื่องก๋วยเตี๋ยวคัดสรรให้กินอย่างจุใจ มีเส้นให้เลือกกินครบครัน พี่ยึดหลักทำด้วยความตั้งใจและสะอาด คนชิมจะเป็นคนตัดสินเอง ทุกวันนี้ขายได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ทำกันแบบสบายๆ”

...

สนนราคา ก๋วยเตี๋ยวหมูกุ้งทอด เย็นตาโฟ 50 บาท, ก๋วยเตี๋ยวแห้ง 50 บาท, ก๋วยเตี๋ยวหมู 40 บาท, ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ 50 บาท “ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ กุ้งทอด” ขายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00-21.00 น. โทรศัพท์ 08-3769-8667

หลังทานก๋วยเตี๋ยวเสร็จสรรพแนะนำให้เดินย่อยอาหารไปที่บริเวณหอนาฬิกาแม่น้ำบางปะกง มองดูแสงตะวันลาลับขอบฟ้า ปล่อยใจให้ผ่อนคลายไปกับสายลมแผ่ว เป็นความสุขเล็กๆหาได้จากสิ่งที่อยู่รอบตัว.

คุณชายแป๊ะ

คลิกอ่านคอลัมน์ “คุณชายตะลอนชิม” เพิ่มเติม